1) ข้อใด ไม่ใช่ประโยชน์ของเพศศึกษา a) มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศ b) เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนต่างเพศ c) เข้าใจพัฒนาการทางเพศของตนเอง d) มีเจตคติที่ดีต่อธรรมชาติทางเพศ 2) ปัญหาความขัดแย้งเรื่องเพศในข้อใด เป็นปัญหาที่พบมากที่สุด a) ปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศ   b) ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ c) ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร   d) ปัญหาการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม 3) ข้อใดเป็นอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ a) ทำให้อยากมีโลกส่วนตัว   b) ทำให้เข้าใจตนเองได้มากขึ้น c) ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเป็นสาว d) ทำให้เกิดแรงขับทางเพศตามธรรมชาติ 4) ครอบครัวที่มีความเข้มงวดหรือควบคุมลูกมากเกินไป จะส่งผลให้ลูกมีลักษณะอย่างไร a) ขาดความมั่นใจในตนเอง   b) มีความรับผิดชอบสูง c) มีความตรงต่อเวลา   d) มีภาวะเป็นผู้นำสูง 5) ข้อใดเป็นลักษณะปัญหาของครอบครัวที่เกิดจากการมีช่องว่างระหว่างวัย a) เกิดการทะเลาะวิวาทกัน   b) มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาก c) มีความขัดแย้ง ขาดความปรองดอง   d) เกิดการหย่าร้าง หรือแยกทางกันของคู่สมรส 6) กิจกรรม 4ก. มีประโยชน์อย่างไร a) สร้างกิจกรรมที่สนุกสนานในครอบครัว b) ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมทำร่วมกัน c) ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง d) ช่วยลดความขัดแย้ง และส่งเสริมสัมพันธภาพของสมาชิกในครอบครัว 7) การเปิดเผยตนเอง เป็นการป้องกันและลดความขัดแย้งโดยใช้ทักษะใด a) ทักษะการต่อรอง   b) ทักษะการปฏิเสธ c) ทักษะการตัดสินใจและการแก้ปัญหา   d) ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ 8) เมื่อเพื่อนผิดหวังในความรัก นักเรียนควรใช้ทักษะใดในการช่วยแก้ปัญหาให้กับเพื่อน a) ทักษะการต่อรอง   b) ทักษะการปฏิเสธ c) ทักษะการตัดสินใจและการแก้ปัญหา   d) ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ 9) การอยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับเพศตรงข้าม นักเรียนควรใช้ทักษะในข้อใดเพื่อความปลอดภัยของตนเองและรักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อกันไว้ a) ทักษะการต่อรอง   b) ทักษะการปฏิเสธ c) ทักษะการตัดสินใจและการแก้ปัญหา   d) ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ 10) การใช้คำถามปลายเปิดกับคู่สนทนา มีประโยชน์อย่างไร a) ทำให้ผู้ตอบคำถามตอบได้ตรงประเด็นมากขึ้น b) ทำให้ผู้ตอบใช้ความระมัดระวังในการตอบน้อยลง c) ทำให้ผู้ตอบคำถามสามารถหลีกเลี่ยงการตอบคำถามที่ไม่อยากตอบได้ d) ทำให้ผู้ตอบคำถามมีโอกาสอธิบาย หรือแสดงความรู้สึกตามที่ต้องการตอบ 11) หลักของการสร้างมนุษย์สัมพันธ์คือข้อใด a) ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน   b) เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม c) เอาใจเขามาใส่ใจเรา   d) น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า 12) ข้อใดเป็นการใช้ทักษะปฏิเสธที่ไม่เหมาะสม a) ปฏิเสธด้วยคำตอบน่าเชื่อถือ ท่าทีจริงจัง b) พูดตัดบท แสดงความไม่พอใจและตอบโต้ทันที c) แสดงพฤติกรรมที่สุภาพในการปฏิเสธควบคู่กับคำพูด d) เมื่อถูกรบเร้า ให้หลีกเลี่ยงและปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพ 13) ข้อใดกล่าวถูกต้อง a) คนฐานะดีมักไม่ค่อยมีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่น b) สัมพันธภาพทำให้การดำเนินชีวิตของคนในสังคมมีความราบรื่น c) ระดับการศึกษาสูงส่งเสริมให้คนในสังคมขาดสัมพันธภาพระหว่างกัน d) ไม่มีข้อใดถูกต้อง 14) สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างเสริมสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัวคืออะไร a) ความเข้าใจ   b) มีพ่อและแม่อยู่ครบ c) ฐานะทางการเงิน   d) การไปเที่ยวร่วมกัน 15) ข้อใดไม่ใช่ความขัดแย้ง a) การเคารพสิทธิของผู้อื่น b) การแข่งขันหรือทำลายกัน c) ความไม่ลงรอยกันในด้านความคิดหรือการกระทำ d) ความรู้สึกของตัวบุคคลหรือกลุ่มคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปที่แตกต่างกัน 16) หลักการในข้อใดช่วยลดความขัดแย้งทางการพูดระหว่างบุคคล a) มีน้ำใจเป็นนักกีฬา   b) การยอมรับคำติชม c) การสื่อสารทางบวก   d) การเคารพสิทธิของผู้อื่น 17) การที่นักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันจัดเป็นความขัดแย้งประเภทใด a) ความขัดแย้งภายในกลุ่ม   b) ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม c) ความขัดแย้งภายในตนเอง   d) ความขัดแย้งระหว่างบุคคล 18) ถ้านักเรียนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นจะช่วยสร้างศักยภาพของตนเองในด้านใด a) ด้านจิตใจ   b) ด้านสังคม c) ด้านร่างงกาย   d) ด้านสติปัญญา 19) สาเหตุใดนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม a) การรักพวกพ้อง   b) การใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล c) การยึดถือค่านิยมภายในกลุ่ม   d) ถูกทุกข้อ 20) ลักษณะนิสัยแบบใดบั่นทอนสัมพันธภาพที่ดีของบุคคล a) ช่างจดจำ   b) เจ้าระเบียบ c) หวาดระแวง   d) มั่นใจในตนเอง

ทักษะชีวิต

લીડરબોર્ડ

દૃશ્યમાન શૈલી

વિકલ્પો

ટેમ્પલેટ બદલો

આપોઆપ સંગ્રહ થયેલ છે: ?